พาเที่ยว : ตะลุยย่านคนจีนที่ วัดไตรมิตร
วัดไตรมิตร หรือเรียกเต็มๆว่า วัดไตรมิตรวิทยาราม ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพไทย-จีน เดิมเรียกว่า 'วัดสามจีน' เพราะมีชาวจีน 3 คนช่วยกันสร้างวัดนี้ขึ้นมา
วิธีไปก็ง่ายมากๆ เลยค่ะ นั่ง mrt ไปลงสถานีหัวลำโพง ออกทางออกที่ 1 พอขึ้นมาเราก็จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานีรถไฟหัวลำโพง จากนั้นก็เดินตรงไปเรื่อยๆ เลย เดินข้ามถนนตรงแยกหัวลำโพง ข้ามคลองผดุงกรุงเกษม แล้วก็ข้ามถนนอีก ซึ่งตอนนี้เหมือนตรงคลองผดุงกรุงเกษมกำลังก่อสร้างอยู่ พอข้ามถนนมาเรียบร้อยแล้วก็เดินมาทางขวา จนถึงหัวมุม แล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนมิตรภาพไทย-จีนเลยค่ะ
เลยเลียบถนนมาไม่ไกล ก็พอจะเห็นพระมหามณฑปแล้วค่ะ ตัววัดจะอยู่เลยจากซอยสุกร 1 นิดหน่อยค่ะ
ซึ่งวันนี้ที่เราจะไปกันก็คือ พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เป็นอาคารที่สร้างขึ้นจากหินอ่อน มีทั้งหมด 4 ชั้น ชั้น 2 เป็นศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ชั้น 3 เป็นนิทรรศการหลวงพ่อทองคำ ชั้น 4 จะเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ)
ว่าแล้วเราก็เดินขึ้นไปสักการะพระพุทธรูปที่ชั้น 4 กันเลย คนไทยสามารถเข้าได้ฟรี แต่ถ้าชาวต่างชาติต้องซื้อตั๋วค่ะ ซึ่งวัดไตรมิตรก็เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันค่ะ มีทุกเชื้อชาติเลยค่ะ
พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากรเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย สร้างขึ้นจากทองคำบริสุทธิ์ในสมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ได้ลงกินเนสต์บุ๊กเลยนะคะ
เขามีบทสวดแปะอยู่ด้านหน้า ก็สวดตามเลยค่ะ
ภาพในพระมหามณฑปสามารถถ่ายรูปได้นะคะ แต่ห้ามใช้แฟลช
ภายในมีการตกแต่งที่งดงามมากค่ะ เพราะต้องการให้ยิ่งใหญ่สมบารมีองค์หลวงพ่อทองคำ อีกทั้งยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติรัชกาลที่ 9 ภายในความโอ่อ่า รู้สึกยิ่งใหญ่มากเลยค่ะ
การก่อสร้างพระมหามณฑปฯ ควบคุมโดยกรมศิลปากร สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และบริษัทปูนซีเมนต์ไทย
อยู่ย่านคนจีนก็ต้องมีศิลปะจีนเนอะ
หลังจากสักการะพระพุทธรูปทองคำแล้ว คราวนี้ก็จะลงไปชมพิพิธภัณฑ์ด้านล่างกันค่ะ มองลงมาจากชั้น 4 ก็จะเห็นพระอุโบสถอยู่ด้านหน้าค่ะ ภายในก็จะมีพระพุทธทศพลญาณ ซึ่งเป็นพระประธานในพระอุโบสถ
วันนี้เราจะลงไปชมศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราชที่ชั้น 2 กันนะคะ คนไทยเข้าชมฟรีเหมือนเดิมค่ะ แค่ต้องลงทะเบียนหน้าเคาท์เตอร์เท่านั้นเอง ภายในตัวพิพิธภัณฑ์เขาให้ถอดรองเท้านะคะ มีถุงให้ใส่ แล้วก็เดินถือไปด้านในได้เลยค่ะ
ภายในศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ก็จะมีข้อมูลการเริ่มต้นการย้ายถิ่นฐานของคนจีนมาที่ไทย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 9 เลย แต่ละป้ายก็มีตัวหนังสือไม่เยอะค่ะ (ที่เห็นเยอะๆ เพราะมันมีหลายภาษาค่ะ) ยืนอ่านได้เพลินๆ เลย ช่วงแรกจะเป็นช่วงปูความเป็นมา ก็จะมีตัวหนังสือเยอะที่สุดแล้วค่ะ หลังๆ จะเน้นที่พร๊อพแล้วก็โมเดลมากกว่าค่ะ
เดินต่อมาอีกก็จะเป็นหุ่นขี้ผึ้งแสดงชีวิตประจำวันของคนจีน สมจริงดีมากๆ เขาจะเปิดเสียงตะโกนคุยกันของคนจีนไปด้วย ทำให้ยิ่งอินใหญ่เลยค่ะ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะตอนนั้นเข้าไปคนเดียว แอบกลัว5555
เราชอบห้องนี้มากๆ เลยค่ะ เขาจัดแสดงได้น่าสนใจมาก ตรงกลาวห้องมีโมเดลจำลองถนนเยาวราชสมัยก่อน ละเอียดมากเลยค่ะ ตามซอยก็มีคนเดินอยู่เต็มเลยค่ะ เดินวนดูไปรอบๆ ก็จะมีป้ายบอกเกี่ยวกับสถานที่ต่างๆ
ตอนเราไป มีคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งมายืนดู แล้วก็รำลึกความหลังสมัยก่อนกันค่ะ ว่าตึกนั้นตึกนี้เป็นยังไง เคยไปมารึเปล่า น่ารักมากเลยค่ะ
รอบๆ ห้องตามตู้กระจกก็จะมีโมเดลพวกวัดจีน โรงเรียนจีน ร้านขายทอง ซึ่งบางตู้จะมีเสียงประกอบด้วย ทำให้ยิ่งสมจริงเข้าไปอีก
อันนี้คือโรงงิ้วค่ะ มีงิ้วให้ดูจริงๆ เป็นเรื่องเป็นราวเลยค่ะ
ตรงนี้เขาจะเอารูปคนจีนที่ใช้ชีวิตอยู่ในไทย ประกอบอาชีพในไทยมาให้ดู เต็มผนังเลยค่ะ กรอบตรงกลางเป็นกระจก ซึ่งสะท้อนว่าเราเนี่ยก็มีเชื้อสายจีนเหมือนกันค่ะ เพราะถ้ามาดูจริงๆ หาคนไทยแท้ๆ เลยในไทยคงยากมากค่ะ
ดีมากจริงๆ ทั้งตัวนิทรรศการเอง ไปจนถึงการจัดองค์ประกอบ แสง สี เสียง ใครที่ชอบไปพิพิธภัณฑ์ ขอแนะนำว่าห้ามพลาดที่นี่เด็ดขาดเลยค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น